ก่อนจะเริ่มเขียนบันทึกสำหรับทริปนี้ ขอถอนหายใจก่อนสัก3เฮือกก่อนนะครับ ต้องขอย้ำว่า นี่เป็นการบันทึกการเดินทาง โดยใช้มุมมองความคิดโดยส่วนตัว ซึ่งหมายความว่า มันอาจไม่ตรงกับความคิดของคนอื่นก็ได้ เพราะฉะนั้น อ่านจนจบก่อนนะครับ แล้วจะเข้าใจว่า ทั้งรักทั้งเกลียดฮานอยเนี่ย มันเป็นไง
เริ่มวันแรกกับAirAsia หามาได้ ไปกลับ2,920B.Net พายุก็พายุเหอะไม่กลัว ตั๋วถูก ยังไงก็ไม่เสียดายตังค์แต่ปรากฎว่าร้อนตับแตกทั้งวันครับ ฝนตกแค่ตอนเช้ามืด
ออกจากสนามบินก็โดนเลยครับ รู้ไว้เป็นอุทาหรณ์ละกันนะ เพราะถ้าคุณมาประเทศนี้ก็เผื่อทำใจไว้ไม่มากก็น้อยก็ต้องโดนหลอก โดนเอาเปรียบ ถ้าไม่อยากโดนหลอกก็คงต้องอยู่แต่กับกรุ๊ปทัวร์ไม่ซื้อของอะไรเลย แล้วมันจะไปรู้อะไรล่ะ อาหารข้างถนน บ้างทีมันก็อร่อยกว่าในร้านอาหารที่กรุ๊ปทัวร์ไปลงนะครับ จริงมั้ยครับ เจ็บนิดๆหน่อย พอเป็นประสบการณ์
ด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย และลืมว่าเค้าสอนให้ระวังตัว
เด็กเรียกรถก็มาเรียกหน้าสนามบิน ใครจะไปคิดเนอะแต่งตัวเหมือนกับพวกเจ้าหน้าที่ที่ถือวอแถวนั้นด้วย ถามแล้วว่าใช่มินิแวน มันก็ว่าใช่ ถามว่าสองดอลล่าห์ใช่ป่าว มันก็ว่าใช่ รอแป๋มเดียวเสือกมาเป็นแท็กซี่ อ้าว ไอ นี่ แต่ก็ไปนะ ให้ดูที่อยู่มัน มันก็พาไปที่อื่นอีก ไอ นี่ บอกราคามา ก็ว่ายังโอเคสู้ไหว ประมาณ400บาท แต่โง่ตรงนี้ไง งงกับแบงค์เวียดนาม เพราะเพิ่งแลกมา มีตั้งแต่ 500/1,000/2,000/5,000/10,000/20,000/50,000/100,000/500,000 งงมั้ยล่ะ (พยายามหาข้ออ้าง)
หยิบผิดหยิบถูกมันก็ชี้
แบงค์นี้แบงค์นี้ เดาสิครับ จาก170,000 กลายเป็น1,700,000vก็ประมาณ2,400B มารู้ที่หลัง เด็กๆ
เกือบเท่าราคาตั๋วเครื่องกูเลย เฮ้อ อยากร้องไห้
TIP: ถึงสนามบิน แลกเงินแค่พอใช้ ออกประตูสนามบิน เลี้ยวขวา ใครเรียกไม่ต้องสนใจ (หมายถึงไม่ต้องสนใจจริงๆนะ ไปขึ้นรถตู้ของVietnam Airlines คนละ 2USD รถจะมาส่งใกล้ๆกับโบสถ์St.Joseph ซึ่งอยู่ใกล้ทะเลสาบ
พอหาที่พักจนเจอ โอเคล่ะ เค้าบอกราคาเปลี่ยนแล้ว ข้อมูลปีที่แล้ว 8USDตอนนี้9USD ก็โอเค
เหนี่อยแล้วหาที่พักยากอยู่ ไม่มีแผนที่ (ถึงมีก็ช่วยอะไรมากไม่ได้หรอก)
ชื่อ Phu Hoa อยู่ถนน Van Can มีน้ำอุ่นเพราะที่นี่หน้าหนาว ต้องใส่โอเวอร์โค้ทกันเลย แต่9USDไม่มีรีโมทแอร์ให้ ไม่ต่อสายตู้เย็น งง ละสิ ก็ราคาห้องพัดลมไง เอาเถอะอยู่ได้ ถูกดี ไปที่อื่นเดี๋ยวโดนโกงอีก ที่นี้ดูจากในบล็อกของฝรั่งอีกทีหนึ่ง เค้าว่าไว้ใจได้ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทองกับนักท่องเที่ยว
ออกไปหาอะไรกินแถวรอบๆทะเลสาบHoan Kiemละกันเนอะ เจอPho24ฝากท้องได้สำหรับมื้อแรกยังไม่กล้าสั่งข้างทาง เดี๋ยวโดนโกงอีก ไม่มีคนเวียดนามนั่งกินเลยครับ ไม่แปลก สำหรับต่างชาติที่ไม่กล้ากินข้างทาง ราคาแพงกว่าเท่าตัว (คงเหมือนส้มตำในห้างแบบบ้านเรา) ข้างถนนอร่อยกว่า
เดินเรื่อยเปื่อยเนอะดูบรรยากาศ
TIP:ทำใจเรื่องเสียงแตรมอไซค์นะ อาจจะปวดร้าวเข้ามาในสมองได้ แต่ถ้าอยู่ไปสัก3วันอาการจะดีขึ้นเอง
เวลาข้ามถนน หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว วิธีปฎิบัติคือ
1.สูดลมหายใจ
2.กลั้นลมหายใจไว้
3.มองไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่ต้องเลี้ยวดูรถ
4.เดินรักษาระดับความเร็ว
วันนี้แค่นี้ก่อนนะบอบช้ำพอแล้ว ไปผ่อนคลายที่ผับเกย์กัน ชื่อ GCอยู่ถนนBao hanhเดินแค่300เมตร(แต่ก่อนไปศึกษาเส้นทางนิดหนึ่ง เพราะอาจเดินอ้อมให้เหนื่อยเล่น ถนนเค้าเป็นซอยตัดถึงกันอยู่ ปั๊ด มารู้ตอนหลัง)
เวสป้าที่นี่เค้าขายแสนห้า(บาท) บ้านเราขายแสนเดียว งง มันผลิตที่นี้นี่หว่า
ไม่ได้ถ่ายรูปรถยนต์แพงๆซึ่งมีเยอะมากบนถนน
เยอะกว่าที่เห็นในกรุงเทพซะอีก เค้ารวยกันอยู่นะ คนประเทศเนี่ย
ราคาเครื่องดื่มGCคร่าวๆ ซึ่งที่อื่นแพงกว่าหน่อย
jagerbomb 60,000v 87 Bht
Draft Beer 25,000v 36 Bht
Havana Club 50,000v 72 Bht
water 30,000v 43 Bht
Happy Hour3ทุ่มถึง4ทุ่ม สั่ง2ฟรี1
บรรยากาศช่วงเย็นก่อนเข้าผับ
มันคืออะไรไม่รู้ เพราะถามเค้าๆก็พูดอังกฤษไม่ได้กันเป็นเย็นวันศุกร์ที่2 SepตรงกับวันIndipendenceDay เค้าหยุดกัน3วัน คนประมาณล้านแปด รถประมาณล้านแปดคัน เสียงบีบแตรก็คูณเข้าไปเอง
TIP:ผับบาร์ที่นี่ปิดเที่ยงคืนนะครับ เมาแต่หัวค่ำไปเลย จะได้พอดีกับเวลาเค้าปิด ร้านมินิมาร์ทหายากมาก ความคิดที่ว่าเดี๋ยวออกไปซื้อน้ำแข็งเซเว่นแบบบ้านเราเนี่ย เลิกคิด
วันเสาร์ที่3 ตื่นสายๆเนอะ เดี๋ยวค่อยออกไปดูพิพิธภัณฑ์ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกัน แต่จากที่พักคงต้องไปมอไซค์40,000v58Bht
พี่มอไซค์ตลกดี(เจอคนใจดี) เค้าก็อยากคุยกับเรานะแต่ภาษาไม่ได้เลย ก็เลยภาษาร่างกาย เค้าว่า พิพัธภัณฑ์เค้าปิดพักเที่ยง
เปิดอีกที่บ่ายสอง
บริเวณแถวนั้นก็จะมี Ho Chi Minh's Mausoleum
One Pillar Pagoda
แล้วก็มี House on stilt of HoChiMinh,Presidential Palace,Ba Dinh Square
ไม่ได้ไป เพราะ อากาศร้อนมาก และบางที่ก็ไม่อนุญาติให้เข้าด้วย ถ้าสนใจอาจจ้างรถไซโครก็ได้ แต่ไม่สำหรับเรา
HoChiMinhMuseum เปิดทุกวัน 8:00-11:30 และ 14:00-16:00 ปิดบ่ายวันจันทร์กับวันศุกร์
เลยแวะหาของกินเนอะ สังเกตุน้ำขวด ชื่อSumurai Energy Drink (Product of CoCaCola) รสชาติประมาณ กระทิงแดงแต่อ่อนกว่านิด ราคารวมเฝอ35,000v50Bht
ค่าเข้าMuseum25,000v36Bhtสำหรับชาวต่างชาติอย่างเรา ตนเวียดนามเข้าฟรี
(น่าจะแกล้งเป็นคนเวียดนามนะเนี่ย หน้าได้อยู่ โกงกลับบ้างเนอะ)
เข้าชมแล้ว ขอบอกจากใจ ไม่เห็นมีไรเลยอ่ะ ทั้งอาคารคือประวัติและผลงานของท่านHoChiMihคนเดียวเท่านั้น
แต่มาแล้วก็ไปดูซะหน่อย นั่งมอไซค์กลับทะเลสาบราคาเดิม ข้ามไปวัดกลางทะเลสาบชื่อวัดหงอกเซิน (ซึ่งเดินผ่านทุกวัน)ค่าตั๋ว10,000v14Bht ซึ่งก็ วัดจีน
แล้วเดินมาจองตั๋วWaterPuppetซึ่งอยู่แถวนั้นละครับ ถ้าอยากจะนั่งรถCycloก็แถวนั้น
แต่ไม่ได้นั่ง
สนุกดีเวลานั่งร้านข้างทางแล้วนักท่องเที่ยวเดินผ่าน เค้าคงคิดว่าเราเป็นเวียดนาม
ค่าตั๋วมีwater puppet สองราคา60,000/100,000 มีหลายเวลา
ควรไปถามและซื้อที่หน้าเคาร์เตอร์เอง เห็นมีฝรั่งคนก่อนเราจองผ่านเอเย่นต์มาก็มีปัญหา
เพราะบางรอบเต็ม ตอนนั้นก็เลยซื้อ100,000v164Bht
เพราะราคา60,000v87Bhtมีว่างแค่รอบสองทุ่ม (เอาเวลาไปแดกเหล้าดีกว่า)
ใช้เวลาแสดงประมาณ40นาที
เจออีกแล้วไปแลกเงินเพิ่ม คิดยังไงเงินมันก็หายไป40,000v58Bht เนี่ยจากเคาร์เตอร์แบงค์เลยนะเนี่ย เฮ่อ พอถึงห้องซื้อน้ำขวดแป๋ะเจ้าของห้อง ซื้อขวดใหญ่ราคา 10,000v14Bht ก็ถามแป๋ะว่าใช่หรอ เคยซื้อแถวรอบทะเลสาบที่มาวางขายก็ราคานี้ แป๋ะว่าขายแพงจัง ขวดเล็กราคา4,000v5Bht
(แต่จริงๆแล้ววันแรกที่มาพัก แป๋ะก็ขายราคานี้นะ กูจำได้กูจดไว้ แต่ไม่ได้พูดอะไรไป เหนี่อย)
ไม่อยากออกไปไหนแล้ว นอนร้อนๆดูงิ้วดีกว่า
รอเวลาไปเที่ยวกลางคืนเนอะ ยังไม่ไปHalongBay เพราะวันอาทิตย์เห็นบริษัททัวร์ว่าคนจะเยอะมาก เรื่องไรจะไป คืนวันเสาร์ก็ต้องPartyสิ แกะถุงของที่ซื้อจากมินิมาร์ท(ซึ่งหายากมาก)
เอาอีกแล้ว คิดกูเวอร์มาหนึ่งซอง ถึงว่าสิ ทำอึกอักตอนขอสลิป คนซื้อก็โง่เนอะไม่ดูให้ดี
เห็นยังว่าเค้ามีความพยายามในการโกงมาก ไม่เข้าใจเลย
ใช้เวลาช่วงหัวค่ำไปกับทีวี และฮานอยว๊อดก้า 35,000v50Bhtกับน้ำส้ม NO ICE
เพราะไม่มีน้ำแข็งให้ซื้อไง เซ็ง จะเดินไปซื้ออีร้านมินิมาร์ทนั้นก็คงไกลไป เดี๋ยวจะโดนโกงอีก
TIP:มีคนบอกว่าถ้าโดนโกง ให้โวยวายเสียงดัง เค้าเรียกว่า อยากจะเลวแต่ก็ยังอาย
ช่างมัน เบื่อแล้วกับคนชาตินี้ มีความสุขกับทีวีก็ได้ แล้วเดี๋ยวออกไปดื่มต่อที่GC
เพราะที่นั้น อบอุ่น ปลอดภัย จ่ายตังค์ผิดก็ทอนคืน
(เกย์เวียดนาม อัธยาศัยดีนะ แปลกดี)
หนุ่มๆเวียดนาม
ระหว่างทางไปและกลับที่เที่ยวกลางคืน
ที่แฮงค์เอาร์ทของคนเวียดนามเค้า มุมวัยรุ่น มุมคนแก่ ที่เห็นเนี่ยไม่ได้กินเหล้ากันหรอกนะ
เป็นน้ำผลไม้ กับแทะเมล็ดดอกทานตะวัน(แบบบ้านเรานั้นหละ)
ร้านตอนเทคเลิก ประมาณนั้น มีแต่วัยรุ่นนั่งกิน ไม่ได้สั่งกินเพราะเมามาก
อันนี้ละกัน ง่ายๆ อ้วกออกมาก็ไม่ค่อ่ยเสียดายตังค์14,000v 20Bht
ตื่นมาอย่างแฮงค์ ขออาหารไทยรสแซ่บๆด่วน
ประมาณ ก้อนคนอร์รสตำยำ ใส่สิ่งที่คล้ายเห็ดฟาง 5 อัน ใบมะกรูด 1ใบ ตะไคร่ 1ข้อ โดนไป ร้อยกว่าบาท ข้าวสอง น้ำหนึ่ง รสชาติก็ลองทำดูเองล่ะกัน คงเหมือนกันอยู่ แต่ชอบพนักงานร้านนี้จัง ยิ้มแย่ม ภาษาอังกฤษก็ดี เค้าจะรู้ไหมเนี่ยว่าฉันเป็นคนไทยที่แอบชื่นชมเธออยู่
ทำงานร้านอาหารไทยไม่ว่าจะในประเทศไหน ก็ต้องมียิ้มสยาม เนอะ
(ถึงแม้คนไทยสมัยนี้ จะไม่ค่อยยิ้มให้กันแล้วก็ช่าง)
ช่วงกลางวัน ไม่เล่ามาก ไปซาวน่าเกย์ ที่แตกต่างจากบ้านเราคงจะเป็น ของเค้าเล็กกว่า สกปรกกว่า
(หมายถึง สถานที่)
ทำฟันกันเห็นๆจะๆ
ตอนเย็น คราวนี้มีเพื่อนจากGC พาไปกินอะไรอร่อยซะที นี้เลย เรียกว่า Mie ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น
เส้นมาม่า มีผักนิดหน่อย
แถวถนน Hang Bo อร่อยมากมาย มังก็มังเหอะ อารมณ์นี้แล้ว อร่อยจริงนะ ที่น่าสนใจ คือ จะให้ถ้วยใส่เกลือ กับพริกซอยหยาบ เราก็บีบมะนาวลงไปคนๆเล็กน้อย คีบไก่ทั้งชิ้นจิ้มเกลือนั้นเหละ อือ อร่อยอ่ะ แปลกดี ไม่เคยกิน เพื่อนกระซิบว่าร้านเนี้ย ดัง ถึงว่าดิ กระดูกไก่ เต็มพื้นเลย (เค้ากวาดทีเดียวตอนเก็บร้าน เราคนไทยเห็นครั้งแรกอาจจะอึ้งๆ) มีปาทั้งโก๋ด้วยเหนียว จุ๋มน้ำก๋วยเตี๋ยวแล้วกิน
เพื่อนสั่งสมองมากินด้วย แต่ขอผ่าน อิ่มท้องยังไม่หมดพิธีการ ฉบับHangOutแบบฮานอย
ต้องไปนั่งแทะเม็ดทานตะวัน แถวโบสถ์St.John ตรงนั้นวัยรุ่นแยอะ
และลงท้ายที่GCเหมือนเดิม(ไปที่อื่นมาแล้ว ไม่โดนเท่าที่นี่ ง่ายๆสบายๆไม่เสียงดังมาก และคาดว่าถึงเมาก็จำทางกลับห้องได้)
แต่คืนได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนใหม่ที่ชอบมาเที่ยวเมืองไทย สนุกดี เริ่มเจอสิ่งดีๆในฮานอยแล้ว
เช้าจันทร์วันที่4 SEP'54
เริ่มวันใหม่กับฝนเช้าตรู่ มานั่งรอรถทัวร์ไปฮาลองเบย์ ใจก็ไม่ดี มันจะหลอกเราอีกป่าวว่ะ
ราคาจะมีตั้งแต่ 19USD ไปจนถึงแพงมาก อันนี้ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์
จะนั่งเรือเก่าเรือใหม่เรือไฮโซ ก็ต้องมารอกันตรงนี้ก่อน
เหมือนรายการทัวร์day tripโดยทั่วไป มารับประมาณ8โมงครึ่ง แวะร้านขายของที่ระลึก แต่ไม่เห็นมีใครจะซื้อ บ้าป่าว แพงกว่าตามท้องถนนตั้งแยอะ แต่ของเหมือนกันเปี๋ยบ เดินทางประมาณ 3ชมครึ่ง.พาไปดูกระชังเลี้ยงปลา(เมืองไทยไม่มี?) แล้วไปจอดหน้าถ้ำลอด ถ้าใครจะไปก็ 100,000v 145Bht
เพราะไม่รวมในทริป (ยังอุตสาห์หมกเม็ด)
เก็บไว้แดกเหล้าดีกว่า วันนี้กลายเป็นวันดี
ตอนกินข้าว(รวมในราคาทัวร์)แต่ต้องนั่งรวมกับคนอื่นอีก5คน ปรากฎว่าโต๊ะเราเป็นโต๊ะนานาชาติ มีผู้หญิงไต้หวัน2คน,ฝรั่งอังกฤษได้เมียเวียดนาม,ฝรั่งเศส1ไทย1 คุยกันมันเพราะฝรั่งอังกฤษดันอยู่ที่กรุงเทพตอนเสี้อแดง
กว่าจะนั่งรถกลับ เกือบสามทุ่ม ไม่เอาแล้ว ไปแบบทัวร์เนี้ย แต่ยังมีแรงไปนั่งดื่มนิดหน่อยนะ ไปเหอะvacationนะเนี่ย เต็มที่
วันอังคาร 6SEP'54
เริ่มวัน(ตอนบ่าย)ได้ดีจริงๆ ตั้งใจว่าจะไปซื้อกระเป๋าbackpackที่ดูไว้ ถามเพื่อนเวียดนามเมื่อคืน ชีก็ว่าซื้อไปเลย ไม่แพง แต่หาของกินก่อน ไปเจอร้านข้าวข้างทางในตลาด แม่ค้าใจดีมาก หยิบตะเกียบ แถมบอกว่าเนี้ยใช้คีบ หยิบน้ำจิ้มมาให้ก็บอกว่าจิ้มกับอันไหน อาม๊าที่นั่งข้างๆก็สอนให้ใช้ตะเกียบอ่ะ ยังงัยเนี่ยวันนี้ ดีจัง
เดินเล่นหากระเป๋าเป้กันไป
โบสถ์St.John
น่าจะเป็นโรงเงี้ยวดูเหมือนจะสวย แต่ตรงที่ถ่ายเนี่ยอยู่ลึกจากทะเลสาบ (เดินหลง)
ที่นี่ถนนไหนขายอะไรก็ขายอย่างนั้นทั้งถนน
ประมาณวัฒนธรรมจีน (รึเปล่า)
เหมือนน้ำบ๋วย แต่เนื้อมันคล้ายมะม่วงดิบเหมือนกันนะ ไม่รู้เรียกอะไร แป๋ะพูดอังกฤษไม่ได้ แต่ลูกค้าที่นั่งข้างๆก็ชวนคุยอยู่ เพิ่งมาเก็ทที่เค้าคุยตอนหลัง ว่าไทยกับเวียดนามน่ะใกล้กันนะ
อา (น้องของพ่อ)เวียดนามเรียก จู๋
เริ่มวันดีแหะ สรุปเดินแทบบ้าหลงแทบตาย ก็ไปได้กระเป๋าที่เดิมแถวทะเลสาบนั่นเหละ แต่เจออาม๋าขายให้ถูก (วันแรกเจอเด็กผู้หญิงหน้ายิกเหมือนส้น.....บอกราคาแพงกว่านี้)
กลางคืนก็ส่งท้ายที่GCอีกแล้ว ได้คุยกับหลายคนเลย เกย์เวียดนามนี่เค้าไปเที่ยวเมืองไทยกันมาแล้วแทบทุกคนเลยมั้ง
สนุกดีสำหรับคืนนี้ ทำไมเพิ่งมาดี2วันสุดท้ายนี้ว่ะ
เช้าพุธ7SEP
เดินทางกลับ ไปขึ้นรถตู้แถวโบสถ์St.Johnนั้นหล่ะ (ควรจะขึ้นมาตอนแรก)ราคา2USD
ก็ไม่วาย เห็นฝรั่งนั่งมอไซค์มา แล้วทะเลาะเรื่องค่าโดยสาร
เฮ้อ
สรุป พอจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยครับ ว่ามันควรจะรัก หรือควรจะเกลียดดี
มีคนเคยบอกว่า
ที่เรารู้สึกไม่ดี เป็นเพราะว่าเราคาดหวังว่า เค้าจะดีกับนักท่องเที่ยว
เราเลยผิดหวัง
หลายคนที่เราถามทาง เค้าไม่ยินดีสนใจ ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ
นั้นเหละคือ
ความต่างทางวัฒนธรรม สังคม เชื้อชาติ
ชนชาติเค้าผ่านอะไรมามาก มันน่าสนใจ ที่ในประวัติศาสตร์โลก มีเพียงประเทศเดียวที่เคยทำ
สงครามกับอเมริกาแล้วรบชนะ
อึมมมม
บางทีการตัดสินคนทั้งประเทศด้วยการเป็นนักท่องเที่ยวเพียง1อาทิตย์อาจจะไม่ยุติธรรมเกินไป
อย่างนี้อาจมีซ่อม อิอิ ไว้ได้ตั๋วถูก จะไปอีก
คราวนี้คงไม่โดนหลอก (ถึงโดนก็คงไม่เยอะ)
คงน่าสนุกขึ้น
คำที่ได้ใช้
สวัสดี ซินแจ่ว
ขอบคุณ กามเอิน
เท่าไร บาวเยียว
แพง ดั๊ด
แพงมาก ดั๊ดล้ำ
น้องจ๊า แอม เอย (ใช้บ่อยเวลาเรียกพนักงาน)
สุดท้ายนี้ ขออภัยหากการใช้ภาษาไม่ถูกต้อง หวังว่าข้อมูลคงจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย
ทริปหน้าเจอกันใหม่ ยังไม่รู้ที่ไหน คงต้องได้ตั๋วถูกๆก่อนนะครับ
พัฒน์